5. ข้อในการรักษานาฬิกาข้อมือ
- Song
- Mar 20, 2018
- 1 min read
Updated: Mar 21, 2018
1. นาฬิกาข้อมือไม่สามารถกันน้ำได้ทุกเรือนเสมอไป ถึงแม้ว่านาฬิกาข้อมือสปอร์ตที่คุณมีอาจระบุคุณสมบัติกันน้ำบนหน้าปัดหรือฝาหลังก็ตาม แต่ก็ต้องดูขอบเขตความสามารถของมันด้วย บางครั้งมันอาจช่วยได้แค่กันฝุ่น กันเหงื่อ หรือกันน้ำฝนได้เท่านั้น และอาจกันน้ำได้ในต่างสถานการณ์กันด้วย
2 อย่าใส่นาฬิกาข้อมือกลไกจักรกลไปในที่มีความสูง เพราะจะทำให้น้ำมันหล่อลื่นและน้ำมันต่างๆที่อยู่ภายในนาฬิกาข้อมือข้นและเหนียวขึ้นส่งผลต่อการทำงานและความเที่ยงตรงของนาฬิกาข้อมือในอนาคต และถือเป็นการทารุณกรรมนาฬิกาข้อมือมากที่สุด คือ ใส่นาฬิกาข้อมือเข้าห้องซาวน่าแล้วออกมาอาบน้ำเย็นเฉียบทันที หรือการใส่นาฬิกาออกอาบแดด แล้วกระโจนลงสระว่ายน้ำต่อ จริงๆแล้ววิธีเหล่านี้มีผลดีต่อระบบร่างกายของมนุษย์ แต่เป็นหายนะสำหรับนาฬิกาข้อมือ เพราะกลไกของนาฬิกาข้อมือไม่เหมือนคน มันเกลียดการเปลี่ยนแปลงอณุหภูมิอย่างฉับพลัน
3. อย่าให้สายหนัง สายพลาสติก หรือสายยางของนาฬิกาข้อมือสัมผัสกับสเปรย์กันยุง หรือครีมทากันแดด เพราะสายนาฬิกาข้อมือจะเสื่อมเร็วกว่าเวลาอันควรโดยเฉพาะสายพลาสติกและสายยางชั้นดีทั้งหลายโดนเมื่อไรสีจะเปลี่ยนเป็นสีซีดจางและเปราะง่ายขึ้นหลายเท่า คลอรีนในสระว่ายน้ำก็เป็นศัตรูตัวฉกาจ ที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับสายนาฬิกาข้อมือได้
4. อย่าใส่นาฬิกาข้อมือกลไกจักรกลเล่นกีฬาที่มีการกระแทกจนเกินไป เช่น ตีสควอช หวดเทนนิส ฟาดคริคเก็ต และหวดวงสวิงลูกกอล์ฟ หรือขี่จักรยานเสือภูเขาบนพื้นถนนที่ขรุขระมากๆเป็นเวลานานๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงไว้เป็นดี เพราะศัตรูตัวฉกาจของนาฬิกาข้อมือจักรกลคือการถูกแรงสั่นสะเทือนซ้ำๆ หรือถูกกระแทกอย่างแรง
5. อย่าคิดว่าสายหนังคือสายที่คงทน
ผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำว่า สายที่ทำจากหนังหลากหลายมากมาย เช่น หนังจระเข้ ไม่ควรใส่ทุกวันปล่อยให้มันได้พักเพื่อการคลายตัวและคืนรูป และปล่อยให้ความชื้นที่สายหนังรับมาจากข้อมือระเหยไปให้หมดก่อนจะนำมาใส่ใหม่ และแม้ว่าสายหนังจะแปะป้าย "กันน้ำได้" ก็ไม่ควรใส่อาบน้ำหรือใส่นอนอยู่ดี ส่วนสายโลหะหรือสายทองประเภทต่างๆ ควรได้รับการทำความสะอาดอย่างพิถีพิถันเช็ดเอาฝุ่นและคราบสกปรกออกก่อนที่ฝุ่นจะติดแน่นเกินไป โดยเฉพาะคราบที่ฝังตัวอยู่ตามข้อต่อสาย ตัวดีนักเชียว

Comments